พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2550
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 19 มกราคม 2548 มีผลบังคับใช้วันที่ 20 มกราคม 2548
มาตรา 246 (เดิม) ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป ในกรณีต่อไปนี้
(1) เมื่อจำเลยวิกลจริต
(2) เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
(3) ถ้าจำเลยมีครรภ์ตั้งแต่เจ็ดเดือนขึ้นไป
(4) ถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงเดือน
ในระหว่างลุเลาการบังคับอยู่นั้น ให้ศาลสั่งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจัดให้บุคคลดังกล่าวแล้ว อยู่ในความควบคุมในสถานที่อันควร
สาระสำคัญของกฎหมายเดิม
ศาลเท่านั้นที่มีอำนาจในการสั่งให้ชบอการลงโทษจำคุกไว้ก่อนได้ หากปรากฏว่า
(1) จำเลยวิกลจริต
(2) เกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
(3) จำเลยมีครรภ์ตั้งแต่เจ็ดเดือนขึ้นไป
(4) จำเลยคลอดบุตรยังไม่ถึงเดือน
ประเด็นและสาระสำคัญของการแก้ไข
เดิม ศาลเท่านั้นถึงจะสั่งให้ทุเลาการบังคับโทษได้
แก้ไขเป็น ศาลเห็นสมควร หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถร้องขอต่อศาลได้ เช่นจำเลย คู่สมรสหรือญาติของจำเลย พนักงานอัยการ หรือผู้บัญชาการเรือนจำ เมื่อมีเหตุดังนี้
(๓) เดิม จำเลยมีครรภ์ตั้งขึ้นไป แก้ไขเป็น เมื่อมีหลักฐานจากแพทย์รับรองว่าจำเลยมีครรภ์
(๔) เดิม ถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงเดือน แก้ไขเป็น ถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้ว และบุตรนั้นยังมีอายุไม่ถึงสามปี
วัตถุประสงค์ของการแก้ไข
เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพจิตใจของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งจะส่งผลกับบุตรทั้งด้านร่างกายและจิตใจ และมีสิทธิที่จะเลี้ยงดูบุตรจนกว่าบุตรจะมีอายุครบ 3 ปี ในสถานที่อันเหมาะสม ภายใต้การควบคุมของเจ้าพนักงาน
มาตรา 246 (แก้ไขใหม่)
“เมื่อจำเลย สามี ภริยา ญาติของจำเลย พนักงานอัยการ ผู้บัญชาการเรือนจำหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายจำคุกร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นสมควร ศาลมีอำนาจสั่งให้ทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อนจนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไป ในกรณีต่อไปนี้
(1) เมื่อจำเลยวิกลจริต
(2) เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแต่ชีวิตถ้าต้องจำคุก
(3) ถ้าจำเลยมีครรภ์
(4) ถ้าจำเลยคลอดบุตรแล้วยังไม่ถึงสามปี และจำเลยต้องเลี้ยงดูบุตรนั้น
ในระหว่างทุเลาการบังคับอยู่นั้นศาลจะมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวอยู่ในความ
ควบคุมในสถานที่อันควรนอกจากเรือนจำหรือสถานที่ที่กำหนดไว้ในหมายจำคุกก็ได้ และให้ศาลกำหนดให้เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการตามหมายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่และรับผิดชอบในการดำเนินการตามคำสั่ง
ลักษณะของสถานที่อันควรตามวรรคสองให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องกำหนดวิธีการควบคุมและบำบัดรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของจำเลย และมาตรการเพื่อป้องกันการหลบหนีหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นด้วย
เมื่อศาลมีคำสั่งตามวรรคหนึ่งแล้ว หากภายหลังจำเลยไม่ปฏิบัติตามวิธีการหรือมาตรการตามวรรคสามหรือพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ให้ศาลมีอำนาจเปลี่ยนแปลงคำสั่งหรือให้ดำเนินการตามหมายจำคุกได้ให้หักจำนวนวันที่จำเลยอยู่ในความควบคุมตามมาตรานี้ออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา
มาตรา 247 วรรคสอง (เดิม) หญิงใดจะต้องประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ ให้รอไว้จนคลอดบุตรเสียก่อนแล้วจึงให้ประหารชีวิต
สาระสำคัญของกฎหมายเดิม
ผู้หญิงที่ต้องโทษประหารชีวิต ถ้าตั้งท้องอยู่ต้องรอให้คลอดบุตรก่อนแล้วให้นำไปประหารชีวิต
ประเด็นและสาระสำคัญของการแก้ไข
เดิม คลอดบุตร แก้ไขเป็น คลอดบุตรก่อนและเมื่อครบ 36 เดือน ศาลสามารถเปลี่ยนโทษประหารชีวิตเป็นจำคุกตลอดชีวิตก็ได้
วัตถุประสงค์ของการแก้ไข
เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิผู้หญิงที่ตั้งท้อง เพื่อสิทธิมนุษยธรรมตามรัฐธรรมนูญ และให้โอกาสในการเลี้ยงดู ดูแลบุตรที่เพิ่งคลอดจำเป็นต้องได้รับความรัก ความอบอุ่นเป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่ต้องโทษได้กลับตัวเป็นคนดี
มาตรา 247 วรรคสอง (ใหม่)
“หญิงใดจะต้องประหารชีวิต ถ้ามีครรภ์อยู่ ให้รอไว้จนพ้นกำหนดสามปีนับแต่คลอดบุตร
แล้ว ให้ลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต เว้นแต่เมื่อบุตรถึงแก่ความตายก่อนพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว ในระหว่างสามปีนับแต่คลอดบุตร ให้หญิงนั้นเลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสมในสถานที่ที่สมควรแก่การเลี้ยงดูบุตรภายในเรือนจำ”
รายละเอียดเพิ่มเติม